1906

ก่อตั้ง

ริฮาจิ มิซูโน และน้องชาย ริซโซ ก่อตั้ง “Mizuno Brothers Ltd.” ที่เขตคิตะ เมืองโอซาก้า

ร้านขายสินค้าแนวตะวันตก รวมถึงลูกเบสบอล โดยที่ร้านมีสัญลักษณ์แรกคือ “อิซุฮิ”

1907

เริ่มการผลิตเสื้อผ้ากีฬา

ริฮาจิ มิซูโน ผู้ก่อตั้ง Mizuno ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมเบสบอลของสหรัฐอเมริกา เริ่มผลิตเสื้อผ้ากีฬาเพื่อลงทุนและแผยแพร่ในกีฬาเบสบอลในญี่ปุ่น โดยมุ่งหวังที่จะผลิตเสื้อผ้าที่เคลื่อนไหวได้สะดวกและสวมใส่สบาย

1910

เปิดตัวรองเท้าเบสบอล

เริ่มแรกรองเท้าที่ผลิต Mizuno ยังมีเทคโนโลยีและความรู้ที่จำกัด จึงไม่มีลักษณะเหมือนกับรุ่นปัจจุบัน โดยส่วนหุ้มรองเท้าผลิตจากหนังทั้งหมด หนัก และมีรูปทรงคล้ายรองเท้าบูท

1913

เริ่มการผลิตถุงมือเบสบอล

ในปี 1913 เมื่อ Mizuno เริ่มจำหน่ายถุงมือเบสบอล ราคาต่อชิ้นอยู่ที่ประมาณ 2 เยนญี่ปุ่น โดยผู้ก่อตั้ง ริฮาจิ มิซูโน ทำงานร่วมกับช่างฝีมือในการผลิตถุงมือที่เขาออกแบบเอง

1918

เปิดตัวสินค้าใหม่

Mizuno เริ่มจำหน่ายสินค้าหลายประเภทภายใต้ชื่อเฉพาะ เช่น “เสื้อกันหนาว”, “เสื้อคัตเตอร์”, “กระเป๋าบอสตัน”, “กางเกงวิ่ง” และ “เสื้อโปโล”

1928

เริ่มการผลิตรองเท้าในประเภทลู่และลาน

เมื่อ Mizuno เริ่มผลิตรองเท้าสำหรับกีฬาประเภทลู่และลาน วัสดุที่ใช้เป็นหนัง และใช้หมุดยาวที่หนักเป็นปุ่มของรองเท้า รองเท้านี้ได้รับการยอดรับจากนักกีฬาชั้นนำจำนวนมากตั้งแต่นั้นมาและเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโต ของ Mizuno จนถึงปัจจุบัน

1933

เปิดตัว “Star Line” ซึ่งเป็นไม้กอล์ฟที่ผลิตในญี่ปุ่นครั้งแรก

นี่คือไม้กอล์ฟที่ Mizuno ซึ่งผลิตในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และเป็นไม้เหล็กฟอร์จด์รุ่นแรกของ Mizuno ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่สืบทอดและใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้

1936

เริ่มการผลิตเครื่องร่อน

Mizuno เริ่มผลิตเครื่องร่อนเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของการดำเนินธุรกิจ หลังจากเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทีมวิศวกรสามารถทำการทดสอบการบินเหนือภูเขาฟูจิได้สำเร็จ ในปี 1940 “Type 301 Soarer” ได้สร้างสถิติความสูงและระยะเวลาการบินในญี่ปุ่นใหม่

1947

เริ่มการผลิตไม้เทนนิส

ประมาณปี 1946 หลังสงคราม Mizuno เริ่มทำต้นแบบไม้เทนนิสในโรงงานของตัวเอง ปีถัดมาได้ขยายและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และเริ่มการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ ในช่วงปี 1950 การวิจัยไม่เพียงแต่ใช้วัสดุไม้แบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังมีพลาสติกเสริมไฟเบอร์ (FRP) ด้วย ในปี 1952 การผลิตไม้เทนนิสและแบดมินตันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จำนวนไม้ที่ผลิตสูงถึงประมาณ 10,000 ชิ้น

1972

เปิดตัวรองเท้า M-Line

รองเท้า Mizuno ที่ชื่อว่า “M-Line”  ซึ่งตอบสนองทุกความต้องการตั้งแต่กีฬาไปจนถึงการใช้ในชีวิตประจำวัน ได้รับความนิยมทั่วโลก ในปี 1975 Mizuno ได้พัฒนา M-Line รุ่นใหม่ด้วยรูปทรง M ที่มีความทันสมัยเพิ่มขึ้น

1983

เปิดตัวรองเท้า RunBird

เป็นสัญลักษณ์ของรองเท้าที่แสดงถึง “วงโคจรของดาวเคราะห์” ชื่อว่า “RunBird” จากรูปทรงของรองเท้า ปัจจุบันได้กลายเป็นโลโก้ของบริษัท Mizuno และเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์

1985

เปิดตัวรองเท้าฟุตบอล “Morelia”

รองเท้าคู่นี้มีน้ำหนักแต่ละข้างเพียง 245 กรัม ได้วางจำหน่ายทั่วโลกและถือเป็นรองเท้าที่เบาที่สุดในยุคนั้น โดยอิงจากแนวคิด “เบา, ยืดหยุ่น และให้ความรู้สึกเสมือนเท้าเปล่า” โดยพัฒนาให้สามารถใช้ได้โดยไม่คำนึงถึงทักษะหรือสถานะของผู้เล่นในสนาม เพื่อช่วยส่งเสริมศักยภาพของนักฟุตบอลจำนวนมาก

1991

รองเท้าวิ่งที่ช่วยนักกีฬาทำสถิติโลกใหม่

รองเท้านี้ช่วยการทำสถิติใหม่ที่ 9.86 วินาที สำหรับการวิ่ง 100 เมตร เป็นช่วงเวลาที่ไม่เพียงแต่นักกีฬาแต่รวมถึงผู้พัฒนาทุกคนที่ Mizuno ที่หวังจะ “สร้างรองเท้าที่ช่วยสร้างสถิติโลกใหม่” ได้บรรลุความฝันของตัวเอง

1997

เปิดตัวรองเท้า “Wave Rider” รุ่นแรกของ Mizuno

Mizuno ได้พัฒนาแผ่นคลื่นที่เรียกว่า “Mizuno Wave” ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการที่สวนทางกันสองข้อ: การรองรับแรงกระแทกและความมั่นคงในการลงเท้า ปัจจุบันนี้  รองเท้าวิ่ง “Wave Rider” ซึ่งใช้ Mizuno Wave นี้ เป็นหนึ่งในซีรีส์รองเท้าที่เป็นสัญลักษณ์ของ Mizuno

2003

เปิดตัวรองเท้าวอลเลย์บอลรุ่นแรก “Wave Lightning”

เป็นรองเท้าวอลเลย์บอล Wave Lightning รุ่นแรก ของ Mizuno ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้ทั้งนักกีฬาชั้นนำและผู้เล่นทั่วไป

2007

เปิดตัว “WAVE CREATION” ซึ่งใช้โครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า “Infinity Wave”

“Infinity Wave” แสดงฟังก์ชันการทำงานของ Mizuno Wave ได้อย่างเต็มที่โดยการลดฟองน้ำส่วนกลางรองเท้า ทำให้การรองรับแรงกระแทก ความมั่นคงในการลงเท้า และความยืดหยุ่นของรองเท้า Mizuno ดีขึ้นอย่างมาก และป้องกันไม่ให้ความยืดหยุ่นลดลง

2011

เปิดตัวชุดว่ายน้ำสำหรับการแข่งขัน “Mizuno GX”

Mizuno เปิดตัวชุดว่ายน้ำสำหรับการแข่งขัน “Mizuno GX” ซึ่งได้รับการรับรองจากสหพันธ์ว่ายน้ำสากล (FINA) แนวคิดของชุดว่ายน้ำเพื่อแข่งขันนี้คือ “การว่ายน้ำราบเรียบ” “flat swim” ซึ่งกลายเป็นแนวคิดพื้นฐานสำหรับการพัฒนาชุดว่ายน้ำสำหรับการแข่งขันมากว่า 10 ปีที่ผ่านมา

2015

ครบรอบ 30 ปีของรองเท้าฟุตบอล “Morelia”

เรื่องราวเกี่ยวกับ “Morelia” Mizuno ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อผลิตรองเท้ารุ่นนี้ ประกอบด้วยการเลือกวัสดุและคุณภาพของกระบวนการผลิต ปี 2015 ถือเป็นวันครบรอบ 30 ปีของโมเดลนี้ อย่างไรก็ตามการออกแบบและรูปร่างยังคงไม่มีการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ และยังคงรักษาความดั้งเดิมต่อไป

2016

พัฒนาหมวดหมู่สินค้าใหม่สำหรับตลาดเสื้อผ้าลำลองรูปแบบกีฬา

การพัฒนา “Sports Style” เริ่มต้นขึ้นในฐานะหมวดหมู่ไลฟ์สไตล์ใหม่สำหรับตลาดเสื้อผ้าลำลองรูปแบบกีฬา เปิดตัวเป็นรองเท้าแฟชั่นที่มีฟังก์ชัน คุณภาพ และเรื่องราวที่หล่อหลอมมาจากประวัติศาสตร์ของ Mizuno

2016

เปิดตัวรองเท้าทำงาน “Almighty”

เป็นรองเท้าทำงานที่มีคุณสมบัติการสวมใส่สบายและคล่องตัว รองเท้านี้เป็นผลลัพธ์จากการใช้ความรู้ทั้งหมดที่ได้จากการพัฒนารองเท้ากีฬา

จากการริเริ่มเปิดตัวรองเท้านี้ Mizuno ได้เข้าสู่ตลาดสินค้าอุปกรณ์ทำงานอย่างเต็มรูปแบบ

2019

การพัฒนาวัสดุ “DRY AEROFLOW” ซึ่งเป็นวัสดุเฉพาะของ Mizuno ที่ช่วยจัดการเหงื่อและแสดงความสามารถในการระบายอากาศที่ยอดเยี่ยมแม้ในขณะเหงื่อออกมาก

การพัฒนาวัสดุ “DRY AEROFLOW” Mizuno ได้ให้ความสำคัญกับฟิล์มจากเหงื่อที่ทำให้การระบายอากาศของผ้าน้อยลงและสร้างความไม่สบายตัว แม้ในขณะที่เหงื่อออกมาก วัสดุนี้ช่วยคงประสิทธิภาพและความสบายไว้โดยการป้องกันการเกิดฟิล์ม เหงื่อเพื่อรักษาความสามารถในการระบายอากาศ วัสดุนี้ถูกนำมาใช้ในเสื้อผ้ากีฬา ซึ่งมีนักกีฬาชั้นนำหลายคนสวมใส่

2020

การพัฒนาวัสดุ “MIZUNO ENERZY” ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง

“MIZUNO ENERZY” ได้รับการพัฒนาเป็นวัสดุสำหรับรองเท้า ที่มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ Mizuno วัสดุนี้เป็นวัสดุหลักของ Mizuno และถูกนำมาใช้ในรองเท้าหลายประเภท รวมถึงรองเท้าวิ่งและรองเท้ากีฬาในร่ม

2021

การเปิดตัว “Katanaα” ซึ่งเป็นสปริงทรงใบสำหรับขาเทียม

“Katanaα” ได้รับการเปิดตัวเป็นใบสปริงทรงใบสำหรับขาเทียมที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยให้ผู้พิการสามารถทำตามความฝันในการ “วิ่ง” ได้